สงสัยพาเพลินรอบรั้วมหาวิทยาลัยไทย ตอนที่ 5

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555


สงสัยพาเพลินรอบรั้วมหาวิทยาลัยไทย  
ตอนที่ 5 . . . ทำไมเด็กไทยจึงต้องใส่ชุดนักศึกษา




ทำไมเด็กไทยจึงต้องใส่ชุดนักศึกษา

       ทำไมนักศึกษาในประเทศไทยจึงยังต้องใส่ชุดเครื่องแบบนักศึกษาอยู่ ในขณะที่ต่างประเทศสามารถไปเรียนด้วยชุดลำลองที่สุภาพก็ได้ การเรียนในมหาวิทยาลัยควรจะให้ความสำคัญกับการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่หรือ?

       ทำไมนักศึกษาจึงแต่งกายในชุดปกติที่สุภาพมาเรียนไม่ได้? ทำไมต้องให้ใครมาบังคับจำกัดเสรีภาพในการแต่งตัวของเราเอง? ในเมื่อการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดแล้วจุดประสงค์ในการเรียนในมหาวิทยาลัยก็ควรจะเป็นการศึกษาหาความรู้ใช่หรือไม่?



       ปัจจุบันนักศึกษาไทยยังคงใส่ชุดนักศึกษาอยู่ ในขณะที่นักศึกษาในต่างประเทศสามารถแต่งตัวด้วยชุดลำลองที่สุภาพไปเรียนได้ ซึ่งหลายๆสถาบันการศึกษาอ้างถึงเหตุผลในการใส่ชุดนักศึกษาของนักศึกษาไทยว่า

  • ชุดนักศึกษาเป็นชุดที่แสดงถึงความมีเกียรติ
  • ชุดนักศึกษาเป็นชุดที่แสดงถึงความมีระเบียบ วินัย
  • ชุดนักศึกษาเป็นชุดที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของสถาบัน
       ดังนั้น การที่นักศึกษาไม่แต่งเครื่องแบบนักศึกษามาเรียนจึงถูกตีความไปว่า เป็นเด็กเกเร ไม่ใส่ใจการเรียน ไม่ให้เกียรติสถาบัน ขาดระเบียบวินัย


*** แต่ถ้ามองในมุมกลับกันแล้ว ***


       การที่บอกว่าชุดนักศึกษาเป็นชุดที่แสดงถึงความมีเกียรติ และเป็นปัญญาชน หลายๆสถาบันกล่าวว่าชุดนักศึกษาเป็นสิ่งที่มีเกียรติ เพื่อใช้สำหรับแสดงตนให้ผู้อื่นเห็นว่ามีการศึกษาและกำลังจะก้าวไปเป็นปัญญาชน แต่ในทางกลับกันชุดนักศึกษาก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความปรารถนา ที่จะแยกตัวเองออกมาให้แตกต่างจากผู้คนซึ่งไร้การศึกษา ดังนั้น เครื่องแบบนักศึกษาจึงเป็นเขตแดนที่แบ่งแยกระหว่างนักศึกษามหาวิทยาลัยกับผู้ที่ไม่ใช่นักศึกษา ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วมันจะไม่เป็นการแบ่งแยกชนชั้นทางสังคมอย่างนั้นหรือ

ชุดนักศึกษาเป็นชุดที่แสดงถึงความมีระเบียบวินัย 

       ปัจจุบัน ปัญหาการแต่งกายผิดระเบียบของนักศึกษา ยังเป็นปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทั้งเสื้อที่รัดรูปและกระโปรงทรงเอที่สั้นจนเกินไป จึงไม่น่าจะกล่าวได้ว่า การแต่งกายด้วยชุดนักศึกษาเป็นชุดที่แสดงถึงความมีระเบียบวินัย ถ้ากระโปรงทรงเอที่สั้นและเสื้อนักศึกษาที่รัดและบาง ยังเป็นชุดนักศึกษาอยู่

ชุดนักศึกษาเป็นชุดที่แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ของสถาบัน 

       กล่าวคือแต่ละสถาบันต่างก็มีชุดนักศึกษาที่แสดงถึงสถาบันของตน ซึ่งอีกนัยหนึ่งถือเป็นการแบ่งแยกกลุ่มของนักศึกษา จนก่อให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาได้ เช่นการยกพวกตีกันของในกรณีของนักศึกษาสถาบันแห้งหนึ่งกับอีกแห่งหนึ่งที่เป็นข่าวดังตลอดกาล ที่ยกพวกตีกันโดยดูจากชุดเป็นหลัก ซี่งพลอยทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับความเดือดร้อน เป็นสิ่งที่สร้างความเสียหายให้กับสังคมเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของชีวิต จิตใจและทรัพย์สิน

       จะเห็นได้ว่ามหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกในหลายๆประเทศไม่ว่าจะเป็นยุโรป หรือเอเชีย ได้เปิดกว้างให้นักศึกษาได้แสดงออกถึงอัตลักษณ์ของตัวเองผ่านการทดลองการแต่งกาย การทำกิจกรรม และการใช้ชีวิตในรูปแบบต่างๆ กันไป ทั้งนี้รวมไปถึงการที่นักศึกษาจะยืนยันเครื่องแต่งกายอันซอมซ่อสมฐานะ หรือการขวนขวายแต่งแบบหรูหราฟู่ฟ่า แต่การศึกษาของประเทศนั้นก็ยังดีกว่าเรา แทบจะมีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ยังคงยึดติดกับเครื่องแบบนักศึกษา

       หรือในความเป็นจริงแล้วก็คือประเทศไทย แทบจะกลายเป็นกรณีพิเศษหนึ่งเดียวในโลก ต่อการที่นักศึกษามหาวิทยาลัยต้องสวมใส่ชุดเครื่องแบบนักศึกษาไม่เฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศยุโรปเท่านั้น หากแต่รวมถึงประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียเองก็ด้วยเช่นกัน

       ในความคิดเห็นของนักศึกษาต่างประเทศที่มีต่อการใส่เครื่องแบบนักศึกษา กลับมองว่า การที่ทางมหาวิทยาลัยหรือทางรัฐบาลบังคับหรือมีกฎให้นักศึกษาใส่ชุดนักศึกษาถือเป็นการ “การคุกคามสิทธิมนุษยชน” และการควบคุมให้นักศึกษาแต่งชุดเครื่องแบบนักศึกษานั้นถือเป็น “เรื่องใหญ่” เรื่องหนึ่งของมหาวิทยาลัย

เคยมีใครฉุกคิดบ้างหรือไม่ว่า?


       เครื่องแบบคือสิ่งที่สร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ในการทำลายล้างความเป็นปัจเจก และพร้อมกันนั้นก็คือการบังคับให้ต้องเป็นแบบเดียวกัน (uniformity) ด้วยวัตถุประสงค์ดังกล่าวจะเห็นได้ว่าเครื่องแบบนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วจะบังคับใช้กันในองค์กรหรือสถาบันซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่การสลายความเป็นตัวของตัวเองของสมาชิก หรือจะกล่าวว่าชุดนักศึกษาเป็นเครื่องมือที่ทำให้นักศึกษาอยู่ในกฎเกณฑ์ของมหาวิทยาลัย

       การสวมใส่เครื่องแบบของนักศึกษามหาวิทยาลัย จึงเต็มไปด้วยการให้ทำตามเหมือนๆ กัน ซึ่งถือเป็นการปิดกั้นความเป็นตัวของตัวเอง ปิดกั้นการสร้างสรรค์และการคิดในเชิงวิพากษ์

       ท่ามกลางยุคสมัยระบบเศรษฐกิจที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และภูมิปัญญา ซึ่งมีการแข่งขันกันเป็นอย่างสูงในระดับโลกเช่นทุกวันนี้ สถาบันมหาวิทยาลัยมีหน้าที่รับผิดชอบ ที่จะต้องสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ให้ทักษะความรู้ที่จักต้องไม่ล้าสมัยแก่พวกเขา เท่าที่สถาบันการศึกษาจะสามารถจัดหาให้ได้

       แต่คนส่วนมากมักให้ความสำคัญกับเครื่องแบบแทนที่จะให้ความสนใจกับเนื้อหาความรู้มากกว่า ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญกว่าในการที่จะนำความรู้ไปพัฒนาประเทศให้เท่าเทียมนานาชาติ ฉะนั้นถึงเวลาแล้วที่สถาบันต่างๆ ในประเทศไทยจะมีการเปลี่ยนกฎระเบียบต่างๆ เกี่ยวกับการแต่งกายของนักศึกษาให้มีความสอดคล้องและเท่าเทียมกับมหาวิทยาลัยต่างๆทั่วโลก เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาการศึกษาให้เท่าเทียมกับทั่วโลกได้แทนที่จะมาจมปลักอยู่กับเรื่องการแต่งกายที่ไม่ถูกระเบียบของนักศึกษา

       ดังนั้นถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะคิดได้ว่ามีความจำเป็นแค่ไหนที่เราต้องใส่ชุดนักศึกษามา เรียนทั้งๆที่เราไม่ได้ใส่ชุดนักศึกษาเราก็สามารถเรียนจนจบปริญญาตรีได้การที่เราเรียนในมหาวิทยาลัยเราสามารถเลือกได้เองว่าเราอยากจะเรียนอะไรมีอิสระในการเลือกสาขาวิชา เลือกคณะ โดยที่ไม่มีใครมาบังคับเรา แต่ในเรื่องการแต่งกายทำไมเราไม่มีสิทธิเสรีภาพในการแต่งตัว มีคำกล่าวที่ว่า ทำอะไร ตามใจคือไทยแท้ และอีกคำกล่าว คือ ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย คนไทยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกัน มีสิทธิความเป็นมนุษย์เท่ากัน แล้วทำไมคนอื่นต้องมาเอาเปรียบเราเรื่องการกายแต่งกายของเราด้วย

       ถึงเวลาหรือยังที่วัฒนธรรมอำนาจซึ่งแสดงผ่านเครื่องแบบนักศึกษามหาวิทยาลัยนั้นสมควรที่จะหมดไปจากสังคมไทยเสียที

ข้อมูลอ้างอิงจาก 

     แพทริค โจรี อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ สาขาภูมิภาคศึกษา
(เอเชียตะวันออกเฉียงใต้) มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

Share This Post

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น